ดาบฟ้าฟื้น

ในหนังสือ “คำให้การของชาวบ้านกรุงเก่า” บอกว่าขุนแผนถวายเป็นพระแสงแก่ สมเด็จพระพันวษา แต่ในหนังสือ “ขุนช้าง-ขุนแผน” กล่าวชัดทีเดียวว่า ไม่ได้ถวาย นี่เป็นเรื่องที่รู้ต่างกันออกไป

ดาบฟ้าฟื้นนั้น เป็นอาวุธประจำกายของขุนแผน เนื่องด้วยขุนช้างกราบบังคมทูล สมเด็จพระพันวษา กล่าวโทษขุนแผนเรื่องปีนกำแพงวังหนีเวร ออกไปหาลาวทองภรรยาที่เมืองกาญจนบุรี ทั้ง ๆ ที่ตนพยายามทัดทานไว้แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นความผิดอย่างมหันต์ แต่ขุนแผนหาได้เชื่อฟังไม่ แถมดุด่าและจะฆ่าตนเสียอีกด้วย ยังผลให้ ขุนแผนเกือบถูกประหารชีวิตหากทว่า เคยกระทำความดีไปตีเมืองเชียงทองชนะ สมเด็จพระพันวษา จึงโปรดเกล้าฯ ให้ไปเป็นนายด่าน มีหน้าที่รักษาด่านแลคอยระวังเหตุเภทภัย ครั้งใดที่มีศึกมาประชิดติดกรุงศรีอยุธยาจึงจะรับสั่งให้ไปรบ

ส่วนลาวทองนั้นโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานคือ ตำรวจไปเกาะกุมตัวเอามาไว้ในวังของทั้งหมด 25 สิ่งที่ขุนแผนนำมาผสมกันจนสามารถตีมีดดาบได้ คิดว่าเป็นสิ่งของที่ ไม่ใช่หากันได้ง่าย ๆ ถ้าเป็นเรื่องจริง ชั่วชีวิตเห็นท่าจะหาไม่ได้ อย่างเช่น เหล็กไหล กับพระแสงหัก เป็นต้น เมื่อได้สิ่งของ เหล่านั้นครบถ้วนแล้วยังจะต้อง

ซัดเหล็กครบเสร็จ ถึงเจ็ดครั้ง พอกระทั่งฤกษ์เข้าเสาร์สิบห้า ก็ตัดไม้ขึ้นผูสาลเพียงตา แล้วจัดหาสารพัด เครื่องบัตรพลี เทียนทองติดตั้งเข้าทั้งคู่ ศรีษะหมูเป็ดไก่ทั้งบายศรี เอาสูบทั่งตั้งไว้ในพิธี เอาถ่านที่ต้องอย่างวางในนั้น

พอถึงวรรสุดท้าย “ถ่านที่ต้องอย่าง” ดูจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก ถ่านที่ต้องอย่างเป็นถ่านชนิดใดไม่ทราบได้ (ได้ตรวจดูต้นฉบับ คุรุสภาพิมพ์ พ.ศ. 2533 กับฉบับพิมพ์ 2493 มีข้อความตรงกัน) พอถึงปัญหานี้แม้จะนอกเรื่อง ดาบฟ้าฟื้นก็จนด้วยเกล้าอีกเช่นกัน

ช่างเหล็กดีฝีมือลือทั้งกรุง ผ้าขาวนุ่งผ้าขาวห่มดูคมสัน วางสายสิญจน์เสกลงเลขยันต์ คนสำคัญคอยดูซึ่งฤกษ์ดี ครั้งได้พิชัยฤกษ์ราชฤทธิ์ พระอาทิตย์เที่ยงฤกษ์ราชสีห์ ขุนแผนสูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีรัดรูปให้เรียวบ่ลาย ที่ตรงกลางกว้างงามสามนิ้วกึ่ง ยาวถึงศอกกำมาหน้าลูกไก่ เผาชุบสามแดงแทงตะไบ บัดเดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับ อานดีมิได้มีขนแมวพาด เลื่อมปราดเนื้อเขียวดูคมหนับ เลื่อมพรายคล้ายแสงแมลงทับ ปลั่งปลาบวาบวับจับแสงตะวัน ด้ามนั้นทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ จารึกยันต์พุทธจักรที่เหล็กกั่น เอาผมพรายร้ายดุประจุพลัน แล้วเอาชันกรอกด้ามเสียบัดดล

เป็นอันว่าขุนแผน ได้ของต้องใจคือ มีดดาบ แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ มีปัญหาเกิดขึ้นอีกจนได้ ที่ตรงกลางกว้างงามสามนิ้วกึ่ง ยาวถึงศอกกำมาหน้าลูกไก่

กว้างยาวอย่างนี้ ต้องใช้มาตราวัดความยาวของไทยเรา อย่าไปใช้มาตราวัดความยาวของอังกฤษเขา มาตราวัดความยาวของไทยเรามีดังนี้ 8 ปรมาณู เป็น 1 อณู 8 อณู เป็น 1 ธุลี 8 ธุลี เป็น 1 เส้นผม 8 เส้นผม เป็น 1 ไข่เหา 8 ไข่เหา เป็น 1 ตัวเหา 8 ตัวเหา เป็น 1 เมล็ดข้าว 8 เมล็ดข้าว เป็น 1 นิ้ว 12 นิ้ว เป็น 1 คืบ 2 คืบ เป็น 1 ศอก 4 ศอก เป็น 1 วา 20 วา เป็น 1 เส้น 400 เส้น เป็น 1 โยชน์ 8 เมล็ดข้าวเปลือกโบราณจะมีความกว้างประมาณ 2.5-2.8 มม.

ดังนั้น 1 นิ้ว (ไทย) จะมีความยาวประมาณ 2 ซม. ไม่ใช่ 2.5 ซม. ตามมาตราวัดความยาวของอังกฤษ สำหรับความ กว้าง ยาว ของดาบฟ้าฟื้นนั้นต้องลดไปจากนี้เพราะ “เผาชุบสามแดงแทงตะไบดับ เดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับ” บังคับอยู่ แทงตะไบ เนื้อเหล็กย่อมหายไปบ้างเป็นธรรมดา

วรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน กวีหลายท่านรจนา ประพันธ์ นิพนธ์ทรงนิพนธ์ขึ้น เหตุนี้นี่เอง รายละเอียด บางอย่างจึงแตกต่างกันไป

เชื่อหรือไม่ ขุนแผนนั้นตายแล้วตายอย่างชนิด ที่ไม่มีลมหายใจ แต่ชื่อเสียง และพฤติกรรมของท่านไม่ตาย เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป จนสร้าง พระขุนแผน ขึ้น ส่วนขุนช้าง ตลอดเรื่องนี้ (ยังไม่จบ ยังไม่ตาย กำลังมีลมหายใจอยู่ แต่เงียบหายไปจากเรื่อง ไม่มีหลักฐานว่าตาย ขุนช้างมีชื่อเสียง เหมือนกันแต่ออกจะตกตัวงอ คือชื่อเสียมากว่า

จะอย่างไรก็ตาม ทั้งคู่จะเป็นบุคคลที่ไม่ตาย ไปจากโลกนี้ ตราบเท่าที่ ยังมีคนอ่านหนังสือไทยออก หลักฐานที่แสดงว่า ขุนแผนถึงแก่ อนิจกรรมแล้วมีดังนี้

หลวงแผนนั้น ก็แก่ชราภาพ ตั้งแต่ปราบศัตรูหมู่ทหาร ถึงกองกรรม ที่แกทำมามากประมาณ กำหนดการแกก็ล่วงพิราลัย ทั้งที่นางแก้วกริยานางลาวทอง เมียทั้งสองก็แก่ถึงตักษัย ก็ตายสิ้นตามกันเพราะนานไป พ่อแม่ใครลูกได้เผาตามเหล่ามา

เมื่อขุนแผนถึงแก่อนิจกรรมแล้วนางสร้อยฟ้ายังพยาบาทนางศรีมาลาอยู่ จึงยุให้พลายยงซึ่งเป็นบุตรของตน ไปฆ่านางศรีมาลา แต่ว่าไม่ตาย เพราะกุมารทองและโหงพรายช่วยกันป้องกันไว้จนพลายเพชร พลายบัว ซึ่งเป็นบุตรนางศรีมาลา พบแม่ของตนที่วัดป่าเรไร และอาฆาตแค้นจะต้องไปฆ่าพลายยงให้จงได้ แม้แม่จะห้ามสักเท่าไร ก็ไม่ฟังนางศรีมาลาจนใจ จึงบอกที่ซ่อนดาบฟ้าฟื้นให้พลายเพชรรู้ดังนี้

ยายศรีมาลาได้ฟังคำ ยิ่งเศร้าซ้ำแสนโศกกำสรดศัลย์ เมื่อไม่เอ็นดูแม่นี้แก่ครัน จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ ไม่เล็งเห็นใครได้เผาผี เมื่อมีฟังแม่นี้ก็จนอยู่ ถึงจะไปบอกให้ชีต้นรู้ ดาบของปู่เล่มหนึ่งนั้นถึงดี ให้ชื่อเทพศักดาฟ้าฟื้น กินคนกว่าหมื่นไม่นับผี เอาออกอ่านฟ้าก็ผ่ามาทุกที ซ่อนไว้ที่เขาใหญ่ในโพรงรัก ปากถ้ำข้างทิศบูรพา เร่งไปพิจารณาให้จงหนัก ไม่ไกลกันกับกาญจนบุรีนัก เอาไว้ใกล้จักมรณา ครั้นจะให้ลูกเต้าทั้งปวงไว้ บาปจะติดตัวไปเมื่อภายหน้า กระซิบบอกออกไว้แก่มารดา ครั้งลูยาอยู่ในครรภ์

ตามหนังสือวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้าง-ขุนแผน” ดาบฟ้าฟื้นมิได้ถวายพระพันวษา แต่ประการใด พลายแก้ว ขุนแผน หลวงแผนพระสุรินทร์ฤๅไชย บอกที่ซ่อนมอบไว้ให้ กับนางศรีมาลาลูกสะใภ้ และต่อมาก็ตกถึงพลายเพชร หลานชายด้วยประการฉะนี้

Scroll to Top