โดยเรื่องราวของความเชื่อในสมัยโบราณ มีตั้งแต่การเกิด ก็มีพิธีโกนผมไฟให้กับเด็ก อีกทั้งความเชื่อที่ว่าเด็กจะมีแม่ซื้อคอยดูแล ปกป้อง  แม้กระทั่งยามมีศึกสงครามก็จะมีการพกตะกรุด เครื่องรางของขลังต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเพื่อช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย รวมถึงการสักยันต์บนร่างกายก็เป็นอีกสิ่งที่กระทำกันเพราะเชื่อว่าจะช่วยให้หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า รวมถึงอาวุธที่ใช้ออกรบก็มีการทำพิธีกรรมเพื่อเพิ่มกำลังให้กับอาวุธ ทำลายล้างฆ่าสึกได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการดูฤกษ์ยามในการออกศึกสงครามก็สำคัญไม่แพ้กัน
 
หรือแม้แต่พิธีกรรมสำคัญๆของบ้านเมืองต่างๆ ก็ยังมีการทำพิธีกรรมโดยพราหมณ์ และพิธีทางไสยศาสตร์เข้ามาร่วมด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเชื่อว่าจะนำความสมบูรณ์พูนสุข ความมั่นคงเจริญรุ่งเรืองมาให้
 
ซึ่งการทำพิธีตามความเชื่อนั้น จะต้องมีขั้นมีตอนและมีแบบแผนที่ถูกต้อง เพื่อให้การทำพิธีกรรมดังกล่าวสัมฤทธิ์ผลตามที่ต้องการ  โดยผู้ร้องขอจะต้องกระทำการขอจากผู้ที่มีอำนาจตามลำดับชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ เปรียบได้กับยศตำแหน่ง จะต้องมีการยื่นเรื่องที่ขอเพื่อขออนุมัติเป็นลำดับขั้น ลำดับชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงผู้ที่มีอำนาจสูงสุดอนุมัติดังกล่าว
 
ความเชื่อเป็นเรื่องของความศรัทธาเชื่อมั่น แม้ในสังคมปัจจุบัน ก็ยังมีเรื่องของความเชื่อด้านไสยศาสตร์อยู่ อาจจะผสมผสานกับรูปแบบสมัยใหม่เพื่อความสวยงาม และสามารถพกพาไปไหนได้โดยง่าย และอยู่คู่กับพิธีกรรมต่างๆที่เราถือปฏิบัติกันอยู่ เช่น การเกิด การขึ้นบ้านใหม่ การตาย  แต่อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่ก็ยังคงมีเรื่องของพิธีกรรมทางไสยศาสตร์รวมอยู่ทั้งสิ้นไม่มากก็น้อย
 
แม้กระทั่ง การไหว้พระสวดมนต์ก็นับว่าเป็นความเชื่อ ความศรัทธาด้วยเช่นกัน
 
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด ความเชื่อ ความศรัทธา พิธีกรรม ก็ยังเป็นสิ่งที่จะอยู่คู่โลกใบนี้ตลอดไป ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม